ศีล- สมาธิ – ปัญญา

 

               เราท่านผู้ปฏิบัติในทางศีล – สมาธิ – ปัญญา ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วางสายทางไว้ให้เราท่านชาย – หญิงไว้ดีแล้ว ทางสายนี้เดินไปได้แต่ผู้เดียว “หนึ่งไม่มีสอง” เราท่านให้เข้าใจกันบ้างว่าทางสายนี้เข้าสู่นิพพานได้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เรานำให้จิตตรงไปไม่หวั่นไหวในคำพูดของผู้อื่นแต่อย่างใด เราไม่ต้องกลัวต่อโลกธรรมแปดประการ ผู้หลงอยู่ในสังขารตนและผู้อื่นอยู่นั้นท่านจะพูดอย่างไรก็ตามแต่ท่านจะพูดไป ผู้หลงสังขารอยู่จะเอาพระนิพพานที่ตรงไหน ท่านจะพูดอย่างนั้นอย่างนี้ ทำอย่างนั้นอย่างนี้ก็ตามแต่ละท่าน เราไม่เอามาปรารภในธรรมเหล่านั้นให้มันเป็นสัญญาอุปาทาน กระทำให้จิตเป็นวิจิกิจฉาสงสัยไปเสียโดยเปล่าจากประโยชน์ที่เราจะเข้าสู่พระนิพพาน เราให้เชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์  แต่อย่างเดียว เรามั่นแล้วแน่นอนท่านจะพาเราไปทางไหน เราก็ต้องไปตามทั้งนั้น ท่านจะพาเราไปทุกข์ เราก็อดทนต่อสู้ ท่านเหล่าใดจะว่าเราโง่เขลาแต่อย่างใดก็ตาม ท่านจะพาเราลงไปตกนรกหมกไหม้ทางไหนก็ตาม เราต้องเอาจิตเอาใจเดินตามท่านไปทุกระยะไปทุกเมื่อไม่ยอมปล่อยวาง ละเว้นจาก พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์เป็นเด็ดขาด ปราชญ์ทั้งหลายจะว่าอย่างไรก็ตามแต่ท่านจะพูดจะว่าไปตามเรื่องของท่าน หลักนี้อาตมาภาพได้ปฏิบัติมาถือมั่นที่สุด ไม่ยอมปล่อยวางแต่อย่างใด จะมุ่งหน้าพยายามละกิเลสตัณหาจะเข้าสู่พระอรหันต์สาวกรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้เข้าสู่พระนิพพาน ตามพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ให้ได้เป็นเด็ดขาดหนึ่งไม่มีสอง โดยสัจธรรมที่มีอยู่แล้วก็จะให้มีเรื่อย ๆ จนถึงท้ายที่สุดดังนี้ ฯ

 

               ผู้ปฏิบัติชาย – หญิงให้พิจารณาดู เป็นสายทางของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า ถ้าใช่ให้ถือปฏิบัติไปตามทางของพระพุทธเจ้านี้ อย่าไปหลงตีตนไปก่อนไข้ ยังไม่ทันถามอย่าไปสุกก่อนห่าม ไม่ดีผิดทางแน่ให้รู้สึกตนมีผลดี ท่านอย่าไปนึกคิดว่าปฏิบัติเพื่อเอาฌานขั้นนั้นขั้นนี้ เอาญานขั้นนั้นขั้นนี้ เพื่อแสวงหาธรรมชั้นนั้นชั้นนี้ ความนึกคิดเช่นนี้เป็นมิจฉาสมาธิปัญญาของพระพุทธเจ้าเป็นแน่นอน มันเป็นสภาวะตัณหา มิใช่ทางปล่อยวางแต่อย่างใด มันเป็นทางโลกธรรมแปดประการที่เวียนว่ายเกิดตายอยู่ เป็นทิฐิแห่งธรรมคือ ความเห็นผิดแห่งธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปถือว่าตนได้ธรรมขั้นนั้นขั้นนี้ ทางปฏิบัติสมาธิกรรมฐานวิปัสสนา ไม่สมควรไปนึกคิดเช่นนั้น เว้นไว้แต่ปริยัติเทียบเท่าในการเล่าเรียนเป็นชั้น ๆ ไป โดยเป็นความหมายสมมุติกันตามชั้นตามภูมิให้กระชับกันให้ปลื้มใจกับผู้เป็นนักเรียนเท่านั้น มิใช่ทางปล่อยวางละเว้นจากตัณหาอาสวะแต่อย่างใด เป็นแต่ผู้ทรงพระวินัยสืบศาสนาต่อ ๆ กันไว้เท่านั้น ผู้ปฏิบัติทั้งหลายชาย – หญิงที่จะปฏิบัติเพื่อเข้าสู่พระนิพพานได้อยู่ทุก ๆ วันนี้ แต่อย่าอวดตนไล่ธัมมะกัน อย่าไปถกปัญหากัน จะหาทางออกจากความพ้นทุกข์ได้ยาก เพราะมิใช่ทางปฏิบัติการธรรมมัสสากัจฉาธรรมนั้น เป็นทางปริยัติในการเรียนการสอบปัญหากันเท่านั้น ในสมัยนี้เขาเรียกกันว่าการสัมมนาก็มาจากธรรมมัสสากัจฉานั้นเอง ฯ

 

               ทางปฏิบัติเราท่านมีแต่ให้ศิลปศาสตร์ ระงับอธิกรณ์แก่ปวงชนทั้งหลายเท่านั้น ทางอื่น ๆ ไม่มี อันเป็นระเบียบของผู้ปฎิบัติเพื่อให้มนุษย์สามัคคีกันโดยสงบ แนะนำให้เลิกจากกรรมอันเป็นบาปเร่าร้อนทั้งปวง ให้อยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข มิให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ให้ขยันหมั่นเพียรอดทนอย่าไปเห็นแก่ปากและท้อง ให้ประหยัดเพื่อถึงคราวจำเป็นที่จะมาถึงตนและผู้อื่น เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่าไปทำลายตนและผู้อื่นให้เดือดร้อน อันนี้เป็นคำช่วยเหลือให้มนุษย์รู้จักความสุขอยู่ในโลกนี้ด้วยศิลปศาสตร์ เป็นทางนักบวชช่วยเหลือมนุษย์และสัตว์ที่ค้ำจุนโลกไว้ไม่ให้แตกอันตรายล่มจมไปได้ ถ้ามนุษย์ไม่ชอบธรรมคำสั่งสอนเหล่านี้แล้ว ก็เป็นกรรมของสัตว์เอง มนุษย์ก็เป็นอันสิ้นสุดลง

 

เวลา..วันที่..ขณะนี้...

 

 

Created on..............: Sat, Jul 13, 2002

ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด  23/10/2562 10:17:28

ติดต่อผู้ดูแล web:  webmaster@luangpochom.com

luangpochom