-
ศีล- สมาธิ ปัญญา
|
|
-
เราท่านผู้ปฏิบัติในทางศีล
สมาธิ
ปัญญา
ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วางสายทางไว้ให้เราท่านชาย
หญิงไว้ดีแล้ว
ทางสายนี้เดินไปได้แต่ผู้เดียว
หนึ่งไม่มีสอง
เราท่านให้เข้าใจกันบ้างว่าทางสายนี้เข้าสู่นิพพานได้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
เรานำให้จิตตรงไปไม่หวั่นไหวในคำพูดของผู้อื่นแต่อย่างใด
เราไม่ต้องกลัวต่อโลกธรรมแปดประการ
ผู้หลงอยู่ในสังขารตนและผู้อื่นอยู่นั้นท่านจะพูดอย่างไรก็ตามแต่ท่านจะพูดไป
ผู้หลงสังขารอยู่จะเอาพระนิพพานที่ตรงไหน
ท่านจะพูดอย่างนั้นอย่างนี้
ทำอย่างนั้นอย่างนี้ก็ตามแต่ละท่าน
เราไม่เอามาปรารภในธรรมเหล่านั้นให้มันเป็นสัญญาอุปาทาน
กระทำให้จิตเป็นวิจิกิจฉาสงสัยไปเสียโดยเปล่าจากประโยชน์ที่เราจะเข้าสู่พระนิพพาน
เราให้เชื่อมั่นในพระพุทธ
พระธรรม พระอริยสงฆ์
แต่อย่างเดียว
เรามั่นแล้วแน่นอนท่านจะพาเราไปทางไหน
เราก็ต้องไปตามทั้งนั้น
ท่านจะพาเราไปทุกข์
เราก็อดทนต่อสู้
ท่านเหล่าใดจะว่าเราโง่เขลาแต่อย่างใดก็ตาม
ท่านจะพาเราลงไปตกนรกหมกไหม้ทางไหนก็ตาม
เราต้องเอาจิตเอาใจเดินตามท่านไปทุกระยะไปทุกเมื่อไม่ยอมปล่อยวาง
ละเว้นจาก
พระพุทธ
พระธรรม พระอริยสงฆ์เป็นเด็ดขาด
ปราชญ์ทั้งหลายจะว่าอย่างไรก็ตามแต่ท่านจะพูดจะว่าไปตามเรื่องของท่าน
หลักนี้อาตมาภาพได้ปฏิบัติมาถือมั่นที่สุด
ไม่ยอมปล่อยวางแต่อย่างใด
จะมุ่งหน้าพยายามละกิเลสตัณหาจะเข้าสู่พระอรหันต์สาวกรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้เข้าสู่พระนิพพาน
ตามพระพุทธ
พระธรรม พระอริยสงฆ์ให้ได้เป็นเด็ดขาดหนึ่งไม่มีสอง
โดยสัจธรรมที่มีอยู่แล้วก็จะให้มีเรื่อย
ๆ
จนถึงท้ายที่สุดดังนี้
ฯ
|
|
-
ผู้ปฏิบัติชาย
หญิงให้พิจารณาดู
เป็นสายทางของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า
ถ้าใช่ให้ถือปฏิบัติไปตามทางของพระพุทธเจ้านี้
อย่าไปหลงตีตนไปก่อนไข้
ยังไม่ทันถามอย่าไปสุกก่อนห่าม
ไม่ดีผิดทางแน่ให้รู้สึกตนมีผลดี
ท่านอย่าไปนึกคิดว่าปฏิบัติเพื่อเอาฌานขั้นนั้นขั้นนี้
เอาญานขั้นนั้นขั้นนี้
เพื่อแสวงหาธรรมชั้นนั้นชั้นนี้
ความนึกคิดเช่นนี้เป็นมิจฉาสมาธิปัญญาของพระพุทธเจ้าเป็นแน่นอน
มันเป็นสภาวะตัณหา
มิใช่ทางปล่อยวางแต่อย่างใด
มันเป็นทางโลกธรรมแปดประการที่เวียนว่ายเกิดตายอยู่
เป็นทิฐิแห่งธรรมคือ
ความเห็นผิดแห่งธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปถือว่าตนได้ธรรมขั้นนั้นขั้นนี้
ทางปฏิบัติสมาธิกรรมฐานวิปัสสนา
ไม่สมควรไปนึกคิดเช่นนั้น
เว้นไว้แต่ปริยัติเทียบเท่าในการเล่าเรียนเป็นชั้น
ๆ ไป
โดยเป็นความหมายสมมุติกันตามชั้นตามภูมิให้กระชับกันให้ปลื้มใจกับผู้เป็นนักเรียนเท่านั้น
มิใช่ทางปล่อยวางละเว้นจากตัณหาอาสวะแต่อย่างใด
เป็นแต่ผู้ทรงพระวินัยสืบศาสนาต่อ
ๆ
กันไว้เท่านั้น
ผู้ปฏิบัติทั้งหลายชาย
หญิงที่จะปฏิบัติเพื่อเข้าสู่พระนิพพานได้อยู่ทุก
ๆ วันนี้
แต่อย่าอวดตนไล่ธัมมะกัน
อย่าไปถกปัญหากัน
จะหาทางออกจากความพ้นทุกข์ได้ยาก
เพราะมิใช่ทางปฏิบัติการธรรมมัสสากัจฉาธรรมนั้น
เป็นทางปริยัติในการเรียนการสอบปัญหากันเท่านั้น
ในสมัยนี้เขาเรียกกันว่าการสัมมนาก็มาจากธรรมมัสสากัจฉานั้นเอง
ฯ
|
|
-
ทางปฏิบัติเราท่านมีแต่ให้ศิลปศาสตร์
ระงับอธิกรณ์แก่ปวงชนทั้งหลายเท่านั้น
ทางอื่น ๆ
ไม่มี
อันเป็นระเบียบของผู้ปฎิบัติเพื่อให้มนุษย์สามัคคีกันโดยสงบ
แนะนำให้เลิกจากกรรมอันเป็นบาปเร่าร้อนทั้งปวง
ให้อยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข
มิให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ให้ขยันหมั่นเพียรอดทนอย่าไปเห็นแก่ปากและท้อง
ให้ประหยัดเพื่อถึงคราวจำเป็นที่จะมาถึงตนและผู้อื่น
เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
อย่าไปทำลายตนและผู้อื่นให้เดือดร้อน
อันนี้เป็นคำช่วยเหลือให้มนุษย์รู้จักความสุขอยู่ในโลกนี้ด้วยศิลปศาสตร์
เป็นทางนักบวชช่วยเหลือมนุษย์และสัตว์ที่ค้ำจุนโลกไว้ไม่ให้แตกอันตรายล่มจมไปได้
ถ้ามนุษย์ไม่ชอบธรรมคำสั่งสอนเหล่านี้แล้ว
ก็เป็นกรรมของสัตว์เอง
มนุษย์ก็เป็นอันสิ้นสุดลง
|
|