ปัญญาเป็นทางสว่างของจิต

 

               ปัญญาเป็นทางสว่างของจิต  นักบวชผู้ปฏิบัติชายและหญิงเหมือนกันทุกๆท่าน  ศีล  สมาธิ   ปัญญา เป็นหลักเป็นทางของศาสนาสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมาทุก ๆ  พระองค์  มรรคผลของศีล  สมาธิ  ปัญญา นั้นคือมรรคผลนิพพานนั้นเอง  นิพพานแปลเป็นภาษาไทยเราเรียกว่า  “สุขหนึ่งไม่มีสอง”  ผู้ปฏิบัตินักบวชทั้งหลาย จงทำมรรคผลนิพพานให้แจ้งเถิด  เป็นทางตัดวิจิกิจฉาปัญหาธรรมะทั้งปวง  ไม่มีสงสัย ไม่มีหลักเกณฑ์ในทางสมาธิสมถะ  วิปัสสนาตามลัทธิต่าง ๆ  แต่อย่างใด

 

               ผู้ทำปัญญาในความรู้ของตนที่มีอยู่ให้สมบูรณ์ได้แล้ว  ย่อมเกิดเป็นทางสว่างแห่งปัญญา รู้ทางมรรค-ผล-นิพพาน  ได้อย่างแท้จริง  ผู้รู้แจ้งมรรคผลนิพพานแล้ว  ไม่มีธรรมะ  ไม่มีปัญหา  ไม่มีอวิชชา ผู้สงสัยอยู่ต้องมีปัญหา มีธรรมะ อยู่เรื่อยไป มิรู้แจ้งในมรรคผลนิพพานไปได้แต่อย่างใด เพราะว่าท่านเหล่านี้ไปทำจิตใจตน  หลงใหลตกอยู่ในตัณหาสาม  โลกธรรมแปดประการตามทางโลกผู้ครองเรือนอยู่ ถึงได้มีปัญหาธรรมะอยู่โดยไม่รู้ตัวแต่อย่างใด

 

               วิธีปฏิบัติขั้นปัญญา  ยืน-เดิน-นอน-นั่ง  ได้ทุกอิริยาบถ  จะอาศัยภาวนาก็ได้  มิอาศัยภาวนาก็ได้ ถ้าจะอาศัยภาวนาให้ภาวนาว่า  “อะระหัง”  ให้ว่าในใจเรื่อย ๆ  ไป

 

               หลักพิจารณาขั้นปัญญามีดังนี้คือ  ตาเห็นเราก็รู้  หูได้ยินเราก็รู้  อะไร ๆ  เราก็รู้  ให้วางเฉยเสีย ให้ยกจิตเราเข้าไปสู่สิ่งที่ไม่มี  ทำจิตตนให้เบิกบาน  ให้สว่าง  ให้แจ่มแจ้ง  ให้รู้ซึ้งโลกซึ้งธรรม นำจิตใจของตนให้เข้าสู่ความสุขที่ปราศจากอามิสทั้งปวง  เรียกว่ายึดนิพพานเป็นอารมณ์นั้นเอง

 

               ความสุขความเจริญอันใด ๆ  ก็ดี  จะยิ่งกว่ามรรคผลนิพพาน  นั้นย่อมไม่มี   จะเป็นทางโลกหรือทางธรรมก็ตาม ไปสิ้นสุดจุดจบที่ความสุขนั้นเอง

 

               เราจะยืน-เดิน-นั่ง-นอน  อันใด ๆ  ก็ทำไปเถิด  “แต่ให้หยุด”  สามคำเท่านั้นจำง่าย ๆ  จบ  ศีล  สมาธิ  ปัญญา ของพระพุทธเจ้ามีเท่านี้  ให้ปฏิบัติจิตใจของตนไปเถิด  มรรคผลนิพพาน  เป็นของท่านชาย  และท่านหญิงผู้ปฏิบัติเอง

 

เวลา..วันที่..ขณะนี้...

 

 

Created on..............: Sat, Jul 13, 2002

ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด  23/10/2562 10:35:14

ติดต่อผู้ดูแล web:  webmaster@luangpochom.com

luangpochom